The 2-Minute Rule for ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

iSEE ฐานข้อมูลเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา

) ซึ่งกลุ่มยากจนพิเศษเหล่านี้เป็นกลุ่มเสี่ยง “หลุดจากระบบการศึกษา”

ภูมิลำเนา และสภาพแวดล้อมของผู้เรียนที่แตกต่างกัน อาจทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการศึกษาได้ เนื่องจากองค์ความรู้ และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ มักถูกพัฒนา และกระจุกตัวอยู่ภายในพื้นที่เขตเมืองมากกว่าชนบท อีกทั้งอัตราการแข่งขันทางการศึกษาที่สูงมากในพื้นที่เขตเมือง ทำให้เกิดเป็นสภาพแวดล้อมของการเรียนรู้ที่ดี ในขณะที่พื้นที่ชนบทไม่ได้มีบรรยากาศ และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้มากนัก

การประชาสัมพันธ์ให้เห็นถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา สามารถทำให้ผู้คนตระหนัก และเข้าใจถึงปัญหาได้ดีมากยิ่งขึ้น การแพร่กระจายข่าวสารเพื่อสร้างความตระหนักรู้ อาจทำได้โดยการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อช่องทางต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดียที่เข้าถึงผู้คนได้อย่างหลากหลาย ง่ายดาย และรวดเร็ว หรืออาจเป็นการประชาสัมพันธ์ผ่านโครงการ หรือหน่วยงานต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ และมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยให้ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาถูกสื่อสารไปถึงประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ในยุคที่เด็กๆ ถูกซ้ำเติมจากวิกฤตรอบด้าน ทั้งความเหลื่อมล้ำ ปัญหาเศรษฐกิจ วิกฤตโรคระบาดที่ทำให้หลายครอบครัวมีรายได้ลดลงหรือถูกเลิกจ้าง และยังต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ซึ่งส่งผลกระทบมาสู่โอกาสทางการศึกษาของเด็กๆ หลายครอบครัวมีค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของเด็กเพิ่มขึ้น เช่น ค่าใช้จ่ายการเรียนออนไลน์ เนื่องจากไม่ได้มีความพร้อมในการจ่ายค่าอุปกรณ์ต่างๆ เช่น โทรศัพท์ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ ค่าอินเทอร์เน็ต และค่าอุปโภคบริโภคอื่นๆ ถึงแม้ว่า ณ ปัจจุบันโรงเรียนกลับมาเปิดตามปกติแล้วก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังจะต้องเจอกับภาวะเงินเฟ้อ ข้าวของแพง ซึ่งดูเหมือนค่าใช้จ่ายยิ่งเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม

ปัญหาความเหลื่อมล้ำเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและเป็นปัญหารากฐานที่สำคัญอย่างหนึ่งของสังคมไทย โดยเฉพาะเรื่อง “การศึกษา” ที่เป็นปัญหาเรื้อรังมาอย่างยาวนาน เราต่างรู้กันดีว่า “การศึกษา” คือโอกาสที่สามารถช่วยให้คนยกระดับคุณภาพชีวิตในระยะยาวได้ แต่ในทางกลับกันในประเทศไทยก็ยังมีคนที่เข้าไม่ถึงการศึกษา โดยเฉพาะเด็กๆ ในพื้นที่ห่างไกล เพราะติดกับดักความยากจนเข้ามาซ้ำเติมแม้จะมีนโยบายเรียนฟรี แต่เด็กจำนวนไม่น้อยก็ยังขาดแคลนทุนทรัพย์สำหรับค่าเล่าเรียนและค่าเดินทาง

เพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ภาครัฐบาล ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม รวมถึงภาคประชาชน ควรมีส่วนร่วมในการหาแนวทางแก้ไขให้ช่องว่างของความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาลดลง เพื่ออนาคตที่ดีของเยาวชน และสังคมไทยในภายภาคหน้า

เมื่อเปรียบเทียบกับภาคกลางหรือกรุงเทพฯ แสดงให้เห็นถึงความเหลื่อมลํ้าทางเศรษฐกิจของประชากรในประเทศที่รุนแรง

การพัฒนาทักษะต่างๆ จะเริ่มตั้งแต่วัยเด็ก โดยเด็กคนหนึ่งจะเริ่มพัฒนาทักษะทางการคิดขั้นพื้นฐาน ก่อนจะพัฒนาขั้นที่สูงขึ้นเมื่อเติบโตเป็นวัยรุ่นและเข้าสู่ช่วงผู้ใหญ่ตอนต้น พร้อมๆ กับเริ่มพัฒนาทักษะเชิงเทคนิคที่จำเป็นต่อการทำงานไปด้วย ขณะที่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการพัฒนาทักษะด้านอารมณ์และสังคมคือวัยเด็กตอนต้น ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และเริ่มพัฒนาต่อในช่วงวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ตอนต้นผ่านทางประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ได้รับ

ขาดประสิทธิภาพการสอนทักษะการคิด และอารมณ์ 

คู่มือหรือแนวทางการให้บริการสำหรับผู้รับบริการหรือผู้มาติดต่อ

หลายคน ที่รอโอกาสการศึกษาต่อที่เหมาะสมการทำงาน และไม่รบกวนภาระงานหลักที่ต้องรับผิดชอบ และที่สำคัญแก้ปัญหาการพัฒนาการเรียนการสอนของครูตชด. ได้ตรงจุด สิ่งที่ได้ไปเรียนรู้มาจากที่ มรภ.รำไพพรรณี สามารถนำมาต่อยอดกับเพื่อนครูที่โรงเรียน พัฒนานักเรียน พัฒนาหลักสูตร มีแผนการสอนที่ดี สามารถกำหนดตัวชี้วัดและประเมินผลได้ตามหลักวิชาการ”  .

อาจไม่ได้สะท้อนความเป็นจริง โดยการคัดกรองที่ ‘ไม่แม่นยำ’ มีส่วนทำให้ตัวเลขนักเรียนยากจนสูงเกินจริง

โครงการความร่วมมือเชื่อมร้อยพลังผู้คนในสังคมไทยที่มีเป้าหมาย พัฒนาคุณภาพการศึกษาและช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่ด้อยโอกาส เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับสังคมไทย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *